แข้งสเปอร์สคืนฟอร์มเก่ง
ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในแบบฉบับของตัวเอง ดาวเตะทีมชาติมาลี
โดดเด่นสุด ๆ โดยปะทะบอลสำเร็จกับตัดบอลได้ถึงอย่างละ 5 ครั้งกองกลาง : เดเล่ อัลลี (สเปอร์ส)ภายใต้การคุมทัพของ นูโน่ เอสปิลิโต้ ซานโต้ ทำให้ เดเล่ อัลลี อดีตดาวจรัสแสงแห่งเมืองผู้ดีได้กลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง และรับหน้าที่สังหารจุดโทษได้อย่างมั่นใจพา
สเปอร์ส เก็บชัยที่ โมลินิวซ์ กราวด์ ได้สำเร็จกองหน้า : กาเบรียล เชซุส (แมนฯ ซิตี้)กลายเป็นว่าไม่ได้ลงเล่นในตำแหน่งที่แท้จริงของตัวเอง โดยแข้งแซมบ้า ถูกถ่างไปทางริมเส้นฝั่งขวา แต่นั่นก็ทำให้เขาโดดเด่น และมีส่วนร่วมกับสองประตู ถึงแม้จะไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ดก็ตาม นี่เพิ่งเป็นครั้งที่ 2 เท่านั้นที่ เชซุส ทำสองแอสซิสต์ได้ในเกมเดียวในศึก ดูบอล พรีเมียร์ลีกโดยหนก่อนทำได้กับ ไบรท์ตัน เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2020กองหน้า : โรเมลู ลูกากู (เชลซี)เล่นเข้ากับเพื่อนร่วมทีม เชลซี ได้อย่างรวดเร็ว โดยทุกครั้งที่ได้บอลมักสร้างปัญหาให้กับแนวรับ อาร์เซน่อล ได้เสมอประตูที่ทำได้เกิดจากสัญชาตญาณกองหน้าที่วิ่งมุ่งหน้าหาประตู และแตะบอลเข้าไปยิงได้อย่างง่าย ๆ ถึงกระนั้นไฮไลท์มันอยู่ที่จังหวะที่เขาวิ่งชน ปาโบล มารี จนล้มลงไปกอง
ลูกากู ทำประตูบนลีกสูงสุด อังกฤษ ไปแล้ว 114 ลูก ขึ้นไปติดท็อปดาวยิงอันดับที่ 20 ของ พรีเมียร์ลีก
นอกจากนี้เจ้าตัวยังเป็นผู้เล่นต่างชาติที่ทำประตูได้ยามเล่นเกมเหย้า และเกมเยือน อย่างละ 50 ประตูขึ้นไปกองหน้า : มิคาอิล อันโตนิโอ (เวสต์แฮม) กว่าจะมีชื่อเป็นผู้ทำประตูก็ต้องรอถึงนาทีที่ 80 ทว่าก่อนหน้านั้น มิคาอิล อันโตนิโอ ก็แอสซิสต์ให้
เบนราห์มา กระทุ้งประตูให้ทีมนำห่าง 2-0 ดาวยิงร่างบึ้กกลายเป็นนักเตะ เวสต์แฮม ที่ยิงประตูมากที่สุดในศึก พรีเมียร์ลีก(49 ประตู) แซงหน้า เปาโล ดิ คานิโอ ที่ทำไว้ 47 ประตู มิเกล อาร์เตต้า กุนซือไอ้ปืนใหญ่ เกมนี้ปรับทัพจากเกมล่าสุดโดยไร้ เบน ไวท์ ที่ติดโควิด-19 แต่ได้ ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง กลับมามีชื่อเป็นสำรอง ส่วนในรายของ มาร์ติน โอเดอการ์ด เพลย์เมกเกอร์ตัวใหม่ที่ซื้อจากเรอัล มาดริด ยังเคลียร์เอกสารไม่เรียบร้อย โดยเกมนี้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ยืนค้ำหน้า และให้ บูกาโย่ ซาก้า, เอมิล สมิธ โรว์ และนิโกล่าส์ เปเป้ ปั้นเกมสนับสนุนส่วนทางฝั่ง "สิงห์บลูส์" ของ โธมัส ทูเคิ่ล เกมนี้ประเดิมส่ง โรเมลู ลูกากู หัวหอกตัวใหม่หน้าเก่าที่ซื้อมาจาก อินเตอร์ มิลาน ด้วยค่าตัวสูง 97.5 ล้านปอนด์ ยืนเป็นหอกเป้า โดยมี เมสัน เม้าน์ท และ ไค ฮาแวร์ตซ์ ยืนอยู่ข้างหลัง โดยให้ จอร์จินโญ่ และมาเตโอ โควาซิช คุมกลาง
เปิดฉากมาไม่ถึง 2 นาที "ปืนใหญ่" ได้ทักทายก่อนหลัง กรานิต ชาคา ตักบอลขึ้นหน้าให้ บูกาโย่ ซาก้า พักบอลก่อนที่ เอมิล สมิธ โรว์ จะวิ่งมาสับไกด้วยซ้ายนอกกรอบแต่บอลไปตรงตัว เอดูอาร์ เมนดี้ รับไว้ได้ถัดมาอีกนาที รีซ เจมส์ หุบเข้ากลางมาซัดเต็มแรงบอลพุ่งไปติดหัว กรานิต ชาคา ก่อนถัดมา นาทีที่ 5 ลูกากู จะป้ายออกให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ซัดนอกกรอบแต่แข้งเจ้าถิ่นก็ตามมาขวางไว้ได้อีก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น