ฮีโร่ที่คาดไม่ถึงของเกมลูกหนังระดับนอกลีก

ด้วยความที่ตอนนี้มันอยู่ในช่วงโปรแกรมเกมทีมชาติ ทำให้เกมฟุตบอลระดับสโมสรแทบทุกระดับ

ต้องหยุดพักการแข่งขันเป็นการชั่วคราว และแทบทุกสายตาก็จับจ้องไปที่เกมทีมชาติของชาติต่างๆ ที่หลายชาติกำลังแย่งตั๋วสำหรับการลุยศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายกันอยู่ อย่างไรก็ตาม ที่จริงแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมามันมีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกมระดับสโมสรเหมือนกัน เพียงแต่มันไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสโมสรใหญ่ๆ แต่เป็นกับทีมระดับนอกลีกของประเทศอังกฤษ

ในวันดังกล่าว มารีน ทีมที่เคยเปิดบ้านรับมือกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในเกม เอฟเอ คัพ รอบ 3 ของฤดูกาลก่อนนั้น มีคิวเปิดรัว รอสเซ็ตต์ พาร์ค เจอกับ ดันส์ตัน ยูทีเอส ในเกม เอฟเอ โทรฟี่ ซึ่งเป็นเกมชิงบอลถ้วยของสโมสรระดับนอกลีก หากเทียบเป็นลำดับชั้นแล้วละก็ มารีน กับ ดันส์ตัน ต่างก็เป็นทีมในลีกระดับ 8 กันทั้งคู่ ดูบอล ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่นักเตะหลายคนของพวกเขาจะเป็นเพียงนักเตะระดับสมัครเล่น หรือก็คือพวกเขามีอาชีพอื่นในการเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ไม่ได้มีรายได้ก้อนโตจากการเล่นฟุตบอลเหมือนพวกนักเตะอาชีพ ตอนแรกนัดดังกล่าวก็เตะกันไปตามปกติ แต่หลังจากเริ่มครึ่งหลังไปได้ไม่นานก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันเมื่อจู่ๆ เกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้องจนทำให้ไฟสนามดับ ซึ่งด้วยความที่ตอนนั้นท้องฟ้าเริ่มมืดแล้วด้วยทำให้ทางกรรมการจำเป็นต้องสั่งพักการแข่งขันเป็นการชั่วคราว พร้อมแจ้งกับทุกฝ่ายว่าอาจจะจำเป็นต้องเลื่อนออกไปก่อนหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ในช่วงที่ทุกคนกำลังหดหู่นั้น มันก็มีฮีโร่ปรากฏตัวขึ้นแบบไม่มีใครคาดคิด เขาคือ ฟิลิป เทิร์นบูลล์ กองกลางของ ดันส์ตัน

 โดยเขาอาสาที่จะซ่อมระบบไฟฟ้าให้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาไม่อยากเสียเวลาต้องเดินทาง

อีกแล้ว จากการที่เดิมทีเมืองที่เป็นถิ่นที่ตั้งของทั้ง 2 ทีมก็อยู่ห่างกันราว 179ไมล์ (มารีน อยู่ใน เมอร์ซี่ย์ไซด์ ส่วน ดันส์ตัน อยู่ใน เกทส์เฮ้ด)ทั้งนี้ เทิร์นบูลล์ มีความมั่นใจในการซ่อมไฟฟ้าให้สนามในระดับหนึ่ง เพราะที่จริงเขาก็มีอาชีเป็นช่างไฟฟ้าอยู่แล้วนั่นเอง โดยเขาตรงไปที่ตู้จ่ายไฟ พร้อมกับติดต่อทางโทรศัพท์ไปหาช่างไฟของ มารีน เพื่อที่จะปรึกษาวิธีซ่อมกันด้วย ซึ่งสาเหตุที่ต้องใช้โทรศัพท์เป็นเพราะช่างไฟที่ว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั่นเอง
    
"ผมเข้าไปหาหนึ่งในเจ้าหน้าที่ของ มารีน และถามเขาว่าคัทเอาท์มันอยู่ที่ไหน" เทิร์นบูลล์ เปิดอก "ผมอธิบายไปว่าเดิมทีผมก็มีอาชีพนี้อยู่แล้ว พอดีว่าตอนนั้นช่างไฟของสโมสรติดเชื้อโควิดอยู่ดังนั้นเราเลยคุยกันทางโทรศัพท์ ผมลองปรับสวิตซ์ไฟฟ้าอัตโนมัตินิดหน่อยแล้วบอกเขาไปว่าอันไหนที่ไฟติดและอันไหนที่ไฟไม่ติด" "ท้ายที่สุดแล้วเราก็ทำให้ไฟดวงหนึ่งติดได้ ก่อนที่มันจะทำให้ไฟส่วนอื่นๆ ทำงานตามไปด้วย ตอนนั้นพวกเราดีใจกันสุดๆ เลยล่ะ เพราะเราไม่อยากจะมาเสียเวลาเดินทางนาน 6 ชั่วโมงอีกครั้งหรอก!" แน่นอนว่า เทิร์นบูลล์ ต้องขอยืมเครื่องมือจากคนอื่นมาช่วยซ่อมไฟในครั้งนี้ เพราะเขาไม่มีทางพกมันติดตัวมาเตะบอลอยู่แล้ว ซึ่งโดยรวมแล้วมันก็ต้องใช้เวลาไปราว 50 นาทีกว่าที่เกมจะกลับมาเตะกันต่อได้ โดยที่จริงตอนแรกกรรมการตั้งเส้นตายเอาไว้ด้วยว่าถ้าไฟติดไม่ทันเวลามันก็ต้องยกเลิกการแข่งขันไป ยังดีที่สุดท้ายมันไม่จำเป้นต้องทำถึงขั้นนั้น ท้ายที่สุดแล้วนัดดังกล่าวจบลงที่การเสมอกัน 2-2 ในช่วงเวลาปกติ ทำให้ต้องตดสินผู้ชนะกันด้วยการดวลจุดโทษ ซึ่ง เทิร์นบูลล์ เป็นหนึ่งในคนที่ถูกเลือกให้รับหน้าที่สังหารในช่วงดวลเป้า และเขาก็ยิงเข้าด้วย น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วทีมของเขาก็แพ้ในช่วงดวลเป้าไปด้วยสกอร์ 4-5 อยู่ดี ถึงกระนั้น 

แม้ว่า เทิร์นบูลล์ จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสนามพร้อมกับต้นสังกัดของเขา แต่นอกสนามเขาถือเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง เพราะมันมีการเอาเรื่องราวของเขาไปโพสต์ในโลกออนไลน์ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่จบเกมการแข่งขันโดยที่เขาไม่รู้ตัว ก่อนที่มันจะถูกแชร์กันในวงกว้างจนทำให้มีคนส่งข้อความมาหามิดฟิลด์วัย 34 ปีเยอะมากๆ "มีคนส่งข้อความมาหาผมทาง WhatsApp มากถึง 300 ข้อความ! (หลังจบการแข่งขันไปแล้ว) ตอนนั้นผมคิดกับตัวเองเลยว่า -เฮ้ย นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย ?- เรื่องของเรื่องก็คือมีการเอาคลิปของผมไปโผล่ในรายการ Soccer Saturday โดยที่พิธีกรพูดด้วยว่า -เขาจะซ่อมมันได้รึเปล่า ?