ครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน ชำแหละฟุตบอลไทยล้มเหลวในคัดบอลโลก2022 ชี้นี่คือครั้งแรก
ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทยที่เรามีตัวผู้เล่นครบสูตร 41 คน ต้องชม ส.บอล ที่ยอมเสียงบประมาณมหาศาลในครั้งนี้เพื่อ 9 แต้ม ระบุ ยูเออี เหมือนหนัก แต่เอาจริงไม่ได้ต่างอะไรกับเรา ส่วน อินโดนีเซีย-มาเลเซีย ส่วนตัวไม่เคยอยู่ในสมองเลยบอกตรงๆ เผยปัญหาใหญ่คือทีมเวิร์ค ฝ่าเกมรับ "ยืนเส้นตรง" ไม่เหมาะ เช็กล้ำหน้า เสียประตู ไม่คุ้มกัน
เปิดใจแบบตรงไปตรงมา การบริหารจัดการของสมาคมชุดนี้พร้อมมากๆ เหมือนขึ้นลิฟท์มาพร้อมเงิน 4,200 ล้านบาท แต่ดันสวนทางกับผลงาน ไหนบอกจะต้องก้าวข้ามผ่านอาเซี่ยน แต่นี่ถอยหลังกลับไปอาเซี่ยนใหม่อีกแล้วจากผลงานของทีมฟุตบอลทีมชาติไทยภายใต้การบริหารงานของ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมฯ และ อากิระ นิชิโนะ กุนซือใหญ่ชาวญี่ปุ่นที่ไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก2022รอบคัดเลือกโซนเอเชียรอบ 12 ทีมสุดท้ายได้ โดยจอดป้ายแค่รอบคัดเลือกรอบสอง ซึ่งผลงานที่เกิดขึ้นสร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอลไทยทั่วประเทศเป็นอย่างยิ่ง ดูบอล ล่าสุดคนวงการฟุตบอลไทย อย่าง "โค้ชหรั่ง"ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตกุนซือทีมชาติไทยชุดใหญ่ที่ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นรองประธานกรรมาธิการกีฒาวุฒิสภา ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ ฟุตบอลไทยวาไรตี้ ทางแฟนเพจ Siamsport Footballsiam ถึงมุมมองของการพัฒนาฟุตบอลไทยในปัจจุบันที่ยังติดขัดอยู่
ซึ่ง ดร.ชาญวิทย์ เผยว่า "ข้อดีของทีมชาติไทยครั้งนี้คือเรื่องการบริหารจัดการ
เราได้ผู้เล่นไปถึง 41 คน ตัวเลือกในสถานการณ์โควิด-19ก็พอจะทำให้สถานการณ์ของเราได้เปรียบ ใน 41 คนคือมีครบหมด ทั้งผู้เล่นตัวเก๋า , ตัวปัจจุบัน และตัวดาวรุ่ง แม้กระทั่งผู้เล่นที่มาจากเลสเตอร์ น้องธนวัฒน์ ซึ่งต้องบอกว่าเรามีครบเลย ตรงนี้น่าจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทยที่เรามีตัวผู้เล่นครบ อันนี้ต้องชมสมาคมที่ยอมเสียงบประมาณมหาศาล
ในครั้งนี้เพื่อ 9 แต้ม" "เรามองว่าการเจอยูเออีเราอาจจะหนักเพราะเป็นทีมจากตะวันออกกลาง แต่เอาเข้าจริง ยูเออีกับไทยเรา ไม่ได้ต่างอะไรกันเลย ผลัดกันแพ้-ชนะ ซึ่งส่วนใหญ่จะเสมอด้วยซ้ำ ถ้าเราเจอ กาตาร์-ซาอุฯ-อิหร่าน-อิรัก ยังหนักกว่า ส่วนอินโดนีเซีย และ มาเลเซีย ส่วนตัวผมไม่เคยอยู่ในสมองเลยบอกตรงๆ ผมขอใช้คำนี้เลย ผมกล้าพูดเลย ผมไม่เคยแพ้เลย แม้จะเป็นฟุตบอลนักเรียนก็ไม่เคยแพ้""ยกตัวอย่างเกมกับอินโดนีเซีย ที่เสมอก็เหมือนเราแพ้ การเสีย 2 ประตูเหมือนความสัมพันธ์ในเกมรับไม่ดี ส่วนเกมกับยูเออีก็เช่นกัน เกมรับยืนเส้นตรงเพื่อเอาล้ำหน้า ถ้าเขาล้ำก็โอเค แต่ถ้าไม่ล้ำก็เสียประตู ถามว่าสูตรนี้เป็นยังไง ผมมองว่าไม่คุ้มกัน สูตรนี้ต้องซ้อมกันนานและต้องอาศัยความเข้าใจกันด้วย" ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน ยังเผยอีกว่า "ผมให้ข้อสังเกตุแบบนี้ดีกว่าครับ ผมตามและศึกษาโค้ชนิชิโนะเขาทำทีมมาตลอด ถือเป็นการศึกษาเขาด้วย เขาเป็นสไตล์ญี่ปุ่น สิ่งที่ญี่ปุ่นเขาทำ เขาจะหมุนโรเตชั่น สไตล์เขาคือการเอาเด็กสดๆลง ดังนั้นแต่ละแมตซ์เขาจะมีตัวหลักในสไตล์เขา
ซึ่งจะแตกต่างจากโค้ชคนไทย คนเรา ไม่ว่าจะเป็นโค้ชซิโก้ , ผมเอง หรือ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ที่เราเน้นไปที่เรื่องของทีมเวิร์คที่จะแตกต่างกัน มันจะเสียนิดนึงคือการเล่นในลักษณะทัวร์นาเมนต์เด็กจะกรอบ" "ผมเชื่อว่าเกมกับมาเลเซียในเกมที่ 3 โค้ชนิชิโนะเขายิ่งจะเปลี่ยนเลย จะมีตัวหลักในสไตล์เขา และอาจจะไม่ซ้ำกับ 2 เกมแรก" "จริงๆการบริหารจัดการของสมาคมชุดนี้มันพร้อมมากๆ เหมือนขึ้นลิฟท์มาด้วย ไม่ต้องไต่เต้าอะไรมา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น